ติดต่อลงโฆษณา racingweb@gmail.com

แสดงกระทู้

ส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถดูกระทู้ทั้งหมดสมาชิกนี้ โปรดทราบว่าคุณสามารถเห็นเฉพาะกระทู้ในพื้นที่ที่คุณเข้าถึงในขณะนี้


ข้อความ - napassanunKaewsa

หน้า: [1]
1


NAD+ หรือ Nicotinamide Adenine Dinucleotide คืออนุพันธ์วิตามิน B3 (Nichotinic Acid) และโคเอ็นไซน์ (Co-Enzyme) ชนิดหนึ่งซึ่งเกี่ยวพันกับอายุขัยของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ ทั้งในแง่การให้พลังงาน ควบคุมระดับเมตาบอลิซึมและนาฬิกาชีวิต รวมถึงรักษาพยาธิสภาพระดับเซลล์ DNA (Deoxyribonucleic Acid) ได้มีประสิทธิภาพ โดยทำงานร่วมกับองค์ประกอบหลักอื่นอีก 2 ตัว ได้แก่
  • เซอทูอิน (Sirtuins): หรือ Silent Information Regulator โปรตีนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ กระบวนการตายของเซลล์ ความต้านทานต่อความเครียด ตลอดการใช้พลังงานของเซลล์ ทั้งนี้มีงานวิจัยหลายชิ้นได้เผยให้เห็นว่าระดับ NAD+ ร่วมกับกิจกรรมการทำงานของเซอทูอินที่ลดลงมีส่วนเร่งการร่วงโรยแห่งวัย
  • ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria): ตัวการซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานไฟฟ้าที่คอยป้อนพลังงานเข้าสู่เซลล์ทั่วร่างกาย

NAD+ IV Therapy ยืดชะลอเซลล์ บูธสมองให้ทำงานได้อย่างทรงพลัง
NAD+ IV Therapy เป็นสูตรการรักษาด้วยการให้ NAD+ ร่วมกับวิตามินเข้าสู่เส้นเลือดดำ (IV Drips) ซึ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทและสมองได้อย่างดี ซึ่งตอบโจทย์ผู้ประสบประสบปัญหาอาการอ่อนเพลียหรือผู้สูงอายุที่ร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพตามกาลจนส่งผลต่อความสามารถทางระบบประสาทและสมอง เช่น สมองเสื่อม ภาวะสั่น ภาวะหลงลืม

NAD+ IV Therapy ช่วยเรื่องใดบ้าง
การทำ NAD+ IV Therapy ช่วยเราได้หลากหลายประการ เช่น
  • ฟื้นพลังงานและอัตราเผาผลาญ
  • ลดและยับยั้งความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง
  • ป้องกันการเสียมวลกล้ามเนื้อพร้อมเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจ
  • เพิ่มระดับ HDL Cholesteral ที่ดีแก่ร่างกาย ลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
  • เสริมการทำงานของระบบประสาทและสมองให้ห่างไกลจากอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน

2


เพื่อเพิ่มทางเลือกบูสผิวคืนผิวให้งามรองรับหลายสภาพผิว Effortless Filler เปรียบเสมือนซีรีย์ภาคแยกของ Belotero ที่รวมหลายคุณสมบัติเด่นซึ่งพร้อมฟื้นบำรุงสภาพผิวได้ลึกถึงแก่น ขณะเดียวกันก็คงความพิเศษกว่าสารเติมเต็มธรรมดาในแง่การเพิ่มความเนียนกระชับของผิวหน้า ไม่เป็นก้อนได้ถึงทั่วใบหน้าให้ลื่นไหลไปกับคอนเซ็ปต์ความสวยแบบไม่ต้องพยายามผ่านชุด Effortless Filler 4 สไตล์เพื่อเสริมหน้าให้งดงามหลากมิติ

Belotero Soft
ความเข้มข้นของ HA: 20 mg
ระยะเวลาคงสภาพ: 6 เดือน

ช่วยฟื้นคืนผิวหน้าเรียบเนียนกลืนเสมอจนการแต่งหน้าเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วย Effortless สูตรเบาบาง พร้อมด้วยคุณสมบัติ High tissue Integration คืนความฉ่ำวาว ผ่องนวลอย่างเป็นธรรมชาติร่วมเทคนิคการฉีดสารเติมเต็มใต้ผิวชั้นตื้นบริเวณแก้มแบบนาฬิการทราย (Hourglass Pattern) จำนวน 16 จุดเพื่อลดเลือนรูขุมขนให้แลดูเล็กลง

Belotero Balance
ความเข้มข้นของ HA: 20 mg
ระยะเวลาคงสภาพ: 10 เดือน

ชุบชีวิตผิวให้อ่อนนุ่มชุ่มชื้นถึงจุดสมดุลด้วย Effortless สูตร Balance ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นที่เนื้อเนียนเป็นหนึ่งเดียว (High Cohesivity) และไม่จับเป็นก้อน จึงช่วยเพิ่มมิติแก่ผิวหน้าและดวงตาให้สดสวยเนียนอย่างมั่นใจ

Belotero Intense
ความเข้มข้นของ HA: 25.5 mg
ระยะเวลาคงสภาพ: 12 เดือน

Belotero กล่องแดงสูตรเข้มข้นพร้อมคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง เนื้อไม่เคลื่อนไปบริเวณที่ไม่ต้องการ ซึ่งตอบโจทย์ยกกระชับบริเวณที่มีการขยับใบหน้าอยู่บ่อยครั้ง เช่น ริมฝีปาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ให้อวบอิ่มตึงอ่อนเยาว์

Belotero Volume
ความเข้มข้นของ HA: 26 mg
ระยะเวลาคงสภาพ: 18 เดือน

กล่องสีม่วงพร้อมคุณสมบัติเนื้อแน่น เพิ่มวอลุ่มแก่ใบหน้าให้มีมิติและโดดเด่นเพียงเสริม 3 จุดสำคัญบนใบหน้า ได้แก่ บริเวณคาง แก้ม และขมับ ให้เข้ารูปแลสมส่วนและคงความเป็นธรรมชาติไว้สมบูรณ์ในหนึ่งเดียว

3

แม้ฟิลเลอร์และโบท็อกซ์เป็นวิถีรักษาชะลอละอ่อนวัยที่ได้รับการยอมรับและนิยมใช้แพร่หลายทั่วโลก ทว่าความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังทำก็เป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับใครหลายคน สิ่งนั้นอาจเป็นการที่เนื้อเคลื่อนจับเป็นก้อนหรือลื่นไหลจนหน้าไม่ได้รูปตามต้องการหรือไขปัญหาหน้าไม่ตรงจุดก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ทว่าปัญหาเหล่านั้นจะทุเลาเบาบางลงหากอยู่ภายใต้การรักษาและดูแลจากแพทย์ชำนาญการ ร่วมกับสารเติมเต็มอานุภาพทรงพลังอย่าง Belotero Revive พร้อมตัวหลากชนิดสีซึ่งปรับลึกถึงโครงสร้างผิวให้ตึงตัวเรียบแต่งหน้าง่ายขึ้น

รู้จักสารเติมเต็ม (Filler)
หากพูดถึงสารเติมเต็มสำหรับลดริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าให้อิ่มฟูเปล่งปลั่ง คำว่า ‘ฟิลเลอร์ ’ คงเป็นคำหนึ่งที่ก้องกังวาลในใจใครหลายคน ทว่าก็มีหลายคนเช่นกันที่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วฟิลเลอร์คืออะไรกันแน่ สารเติมเต็ม (Filler) คือสารกลุ่มหนึ่งที่ใช้สำหรับทำหัตถการฉีดเพื่อเสริมเติมเต็มส่วนชั้นผิวหน้าผาก ริมฝีปาก ร่องแก้ม ลำคอและรอบดวงตาให้ตึงกระชับ ริ้วรอยเส้นหรือหลุมสิวเลือนจางบางลงจนผิวแทบเสมอกัน ซึ่งโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มไขมัน (Fat Graft): การย้ายตำแหน่งไขมันจากบริเวณที่ไม่ต้องการ เช่น หน้าท้อง ต้นขา มาใช้เสริมเติมเต็มบริเวณใบหน้าที่ต้องการรักษา
  • กลุ่มสารสังเคราะห์ (Synthetic Filler): สารสังเคราะห์ทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับฉีดเติมเต็มใบหน้าให้เรียบตึง ทั้งนี้สารเติมเต็มกลุ่มสังเคราะห์ยังสามารถแยกย่อยชนิดเป็นทั้งแบบอยู่ชั่วคราวและคงสภาพถาวร ซึ่ง Hyaluronic Acid (HA) ก็จัดเป็นหนึ่งในสารเติมเต็มชนิดชั่วคราวซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการความงามและได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน

Hyaluronic Acid ได้รับความนิยมเพราะอะไร
เหตุที่สารไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA : Hyaluronic Acid) ได้รับปรับใช้รักษาสภาพผิวหน้าซึ่งพบได้บ่อยตามคลินิกและสถานพยาบาลหลายแห่งก็เนื่องจากเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในผิวของเราอยู่แล้ว เมื่อเรานำสาร HA ดังกล่าวฉีดเข้าสู่ชั้นผิวบริเวณที่รักษาจึงทำให้โอกาสเกิดปฏิกิริยาและผลข้างเคียงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการใช้สารเติมเต็มชนิดอื่น

Belotero Revive เติมเต็มความสวยได้หลายมิติ หลากสไตล์
Belotero Revive จัดเป็นนวัตกรรมสารเติมเต็มชุด Effortless Filler ตัวแรกสุดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ลือชื่อด้านประสิทธิภาพเติมเต็มผิวจากการเพิ่มส่วนผสมสองตัวอย่าง Hyaluronic Acid และ Glycerol สำหรับฟื้นบำรุงผิวให้เรียบเนียน อิ่มฟู ชุ่มชื้น ตึงกระชับหลากมิติ ซึ่งมี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะจาก Merz Aesthetics เป็นกลไกเบื้องหลังการทำงานของตัวผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ส่วนผสมทั้งสองต่างมีคุณลักษณะแตกต่างกันดังต่อไปนี้

ส่วนประกอบของ Belotero Revive
ทั้งนี้ส่วนผสมทั้งสองต่างมีคุณลักษณะแตกต่างกันดังต่อไปนี้
  • Cross-Linked Hyaluronic Acid: สารธรรมชาติสำคัญของชั้นผิวหนัง ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่า จึงช่วยมอบความชุ่มชื้นแก่เซลล์ผิวให้ยืดหยุ่น เฟิร์มและชุ่มชื้น พร้อมลดเลือนริ้วรอยจุดด่างบนใบหน้า
  • Glycerol: สารชนิดหนึ่งซึ่งโดดเด่นเรื่องการอุ้มและดูดซับน้ำตั้งแต่ชั้นผิว Stratum Corneum จรดชั้นหนังแท้ได้เป็นอย่างดี จึงช่วยคงสภาพความชุ่มชื้นพร้อมเสริมเกราะป้องกันชั้นผิวได้ทรงประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ Belotero Revive ยังจัดเป็นสารเติมเต็มที่ผ่านการพิสูจน์จากงานวิจัยหลายชิ้นร่วมกับได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมต่อเนื่องจากยุโรป ไม่ว่าจะเป็น Aesthetics Awards Winner 2014 Injectable Product of The Year, Best Dermal Filler Anti-Aging Beauty & Trophy 2015 – 2017, The Aesthetic Winner Awards 2017 และอื่นอีกมากมาย

4


หลุมสิวอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทว่าก็ใช่ย่อยเลยสำหรับใครหลายคน รู้สึกขัดใจทุกครั้งเมื่อจ้องมองหน้าตัวเองผ่านกระจกเงาซึ่งฉายให้เห็นรูขุมขนและหลุมลึกละเอียดจนเราอยากกลบมันให้เลือนหาย ทำเช่นไรจึงจะฟื้นคืนโฉมหน้าคล้ายหลุมบ่อบนดวงจันทร์นี้ให้กลับมาเรียบเนียนพร้อมมั่นใจได้อีกครั้ง Medisci Clinic มีคำตอบดี ๆ มาฝากกันค่ะ

ทว่าก่อนอื่นต้องเข้าใจปรากฏการณ์บนใบหน้าที่ขึ้นชื่อว่า ‘สิว’ ให้ทุกคนเข้าใจกระจ่างก่อนว่าคืออะไร มีสาเหตุและกระบวนการส่งทอดสู่การเป็นหลุมสิวได้อย่างไร

รักษาหลุมสิวแบบไร้กังวลกับแพทย์ชำนาญการด้านเลเซอร์มากประสบการณ์กว่า 25 ปีได้แล้วที่นี่ : https://www.mediscicenter.com/content/7286/acne-scar

5
โปรแกรมชะลอวัย (Anti-Aging Program)
Anti Aging Program เป็นการตรวจสุขภาพเพื่อหาหนทางฟื้นชะลอวัย ซึ่งเริ่มต้นจากการหาสาเหตุของการเจ็บป่วยอย่างละเอียด ประกอบกับเน้นการป้องกันโรคและวางแนวทางการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน

การรับประทานอาหารและการออกกำลังกายให้เหมาะสมเฉพาะบุคคลรวมทั้งการฟื้นฟูสุขภาพและชะลอความเสื่อมของร่างกาย ผ่านรายงานสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล (Anti-aging Passport) ด้วยรูปแบบที่อ่านเข้าใจง่ายและสามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง มาตรฐานเดียวกันกับในอเมริกาและยุโรป ด้วยการตรวจการทำงานของส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การตรวจประสาทอัตโนมัติ ตรวจสมดุลฮอร์โมน ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ตรวจอัตราการสลายกระดูก ตรวจวัดความเสี่ยงการอุดตันของผนังหลอดเลือด และตรวจหาความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ เบาหวานและโรคร้ายอื่น ๆ เพื่อป้องกันและรักษาได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

6
คุณหมออัจจิมา ได้รับเกียรติเป็น Program Chair ดำเนินรายการ และสัมภาษณ์พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการประชุม “Semi- Invasive Facial Tightening”
จัดขึ้นโดยความร่วมมือกันระหว่าง สาขาวิชาโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสมาคม Association for Dermatologic Surgery (ADS) และบริษัทแอสตราโก เมดิเคิล เน็ตเวิร์คส จำกัด
ณ ห้องประชุมชั้น 9 อาคารเรียน และปฏิบัติการรวมด้านการแพทย์ และโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา
ศูนย์เลเซอร์ผิวหนังรามาธิบดี โดยสาขาวิชาโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านแห่งแรก ที่มีสอนศัลยกรรมผิวหนังเลเซอร์ในประเทศไทย รวมทั้งมีการจัดตั้ง ศูนย์เลเซอร์ผิวหนังรามาธิบดี (Ramathibodi Laser Center) ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมเลเซอร์ ผิวหนังระหว่างประเทศ ให้บริการรักษาด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย   มีมาตรฐานสูง และได้ มาตรฐานสากลโดยคณาจารย์แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง หรือที่เรียกสั้นๆว่า "ศูนย์เลเซอร์ รามา"

7


Gentle Yag โปรแกรมขจัดประสิทธิภาพสูงจากสหรัฐอเมริกา
Gentle Yag เป็นนวัตกรรมเลเซอร์กำจัดขนจากบริษัทแคนเดลา ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว ทั้งยังใช้รักษาความผิดปกติของเส้นเลือดตามหน้าขาและใบหน้าที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 มิลลิเมตร (mm) โดยมีเทคโนโลยีระบบพ่นความเย็นที่ทรงพลังร่วมกับเลเซอร์ที่แม่นยำสูงเป็นกลไกเบื้องหลังความเกลี้ยเกลาและเยาว์วัย  ทำให้ Gentle Yag เป็นการรักษาทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ลักษณะของผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับความชำนาญการณ์ของศัลยแพทย์ร่วมด้วย

หลักการทำงาน
Gentle Yag เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ Long Pulse Nd: YAG laser ความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร และให้พลังงานสูงถึง 80 จูล ซึ่งลงลึกสู่รากขนบริเวณที่ต้องการกำจัดขนสีดำหรือสีน้ำตาลในทุกสีผิว และด้วยคุณสมบัติการถูกดูดซับได้ดีจากเม็ดเลือดแดง  จึงทำให้เลเซอร์กำจัดขนชนิดดังกล่าวได้รับปรับประยุกต์กับการรักษาเส้นเลือดขอดที่มีสีม่วง ดำ และเขียว ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ (ขนาดไม่เกิน 2.5 mm) โดยไม่ก่อรอยดำบนผิวภายหลังการรักษา

ขณะที่เครื่องเลเซอร์กำลังทำงานจะมีระบบให้ความเย็นดี (DCD: Dynamic Cooling Device) ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของบริษัทแคนเดลาคอยพ่นไอเย็นเพื่อปกป้องผิวชั้นบนก่อนยิงเลเซอร์ทุกนัด  ทำให้การยิงเลเซอร์แต่ละนัดบนผิวหนังชั้นบนได้รับการปกป้องอย่างนุ่มนวล โดยไม่ทิ้งรอยแดงด่างดำหลังทำและยังใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ อย่างไรก็ดี ศัลยแพทย์ผิวหนังจะเลือกขนาดของหัวยิงได้ตามรอยโรคดังนี้

เส้นเลือดขอดบนใบหน้าและขา: ขนาด 1.5, 3 mm
ลดริ้วรอย: ขนาด 6, 8, 10 mm
กำจัดขน: ขนาด 12, 15, 18 mm

8

โปรแกรมฟื้นฟูเซลล์ (Biocell Therapy Program)
เมดดิไซน์ได้พัฒนาศาสตร์การฟื้นฟูเซลล์ (Biocell Therapy) ที่สามารถพัฒนาแตกยอดไปเป็นเซลล์ต่าง ๆ ได้อย่างไม่จำกัด ร่วมกับศาสตร์การแพทย์แนวธรรมชาติบำบัดโฮมีโอพาธีย์ (Homeopathy) ซึ่งใช้สารจากธรรมชาติที่ปราศจากสารตกค้างและไม่ก่อผลข้างเคียง นำมาฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมจากโรคเรื้อรังต่าง ๆ ทั้งยังปรับสมดุลการทำงานของเซลล์ให้สื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นระบบ ช่วยรักษาโรคที่เกิดจากความเสื่อมต่าง ๆ เช่น สมองเสื่อม โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคมะเร็ง ฯลฯ

สเต็มเซลล์ (Stem Cell) จึงสามารถพัฒนาตนเองไปเป็นเซลล์ต่าง ๆ ได้ไร้ข้อจำกัด ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดสนใจในที่ทำให้เราได้ไขคำตอบถึง ศักยภาพของมันที่อาจจะช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมเสียหายไปในโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ในอนาคต

Biocell Therapy ประสิทธิภาพที่มากกว่าแค่ฟื้นฟูเซลล์
นอกเหนือไปจากสเต็มเซลล์แล้ว สารชีวโมเลกุลจำพวก Organo Peptide ในกลุ่มโฮมีโอพาธีย์ (Homeopathy) จากอวัยวะต่าง ๆ ทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ของร่างกาย เร่งให้เกิดการซ่อมแซม และชดเชยส่วนที่เสื่อมสภาพไป ซึ่งมีการศึกษากันอย่างกว้างขวางในยุโรปในด้านที่สามารถช่วยรักษาโรคกระดูกพรุน โรคสมองเสื่อม โรคที่เกิดจากความเสื่อมทุกชนิดของอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด หลอดเลือด สมอง ต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไต ตา จอตา หูชั้นใน ประสาท กล้ามเนื้อ ฯลฯ

หน้า: [1]