1. เลือกนายจ้างที่เชื่อถือได้ ชำระเงินตรงเวลา
ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านมีการลงทุนที่สูง ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนหมุนเวียน ค่าวัสดุก่อสร้าง เงินเดือนคนงาน หรือค่าใช้สอยอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง จึงควรระวังกับผู้ว่าจ้างที่ไม่ดี บางทีอาจลองหาที่มาที่ไปของลูกค้ารวมทั้งมองเรื่องราวความน่าไว้ใจ ว่าเคยเบี้ยวเงินผู้รับเหมาเหมือนเรามั้ย อย่ารับงานจากผู้ที่จะมีผลให้พวกเราจำต้องเสียเวลาไปเรียกเก็บเงิน หรือจำต้องให้หมุนเงินจนตกที่นั่งลำบาก
" เราเป็นผู้รับเหมาสร้างบ้าน ไม่ใช่ คนกลางหาเงิน " จุดโฟกัสที่งานก่อสร้างเป็นหลักครับผม
ยิ่งถ้าพบผู้ว่าจ้างดึงงวดในที่สุด งานก็จะไม่สมบูรณ์ ไม่เหลือกำไร หรืออาจโชคร้ายจำต้องเจ๊งกันไป เพราะเหตุว่าการเสี่ยงจากเจ้าของงาน นับว่าเป็นประเด็นสำคัญถ้าเกิดคิดจะทำธุรกิจรับเหมาสร้างบ้าน และไม่ว่าลูกค้าจะเป็นใครกันแน่ ขอให้ทำสัญญาก่อสร้างอย่างรัดกุมที่สุด ไม่เสี่ยงรับงานมั่วครับผม
2. เสนอราคาให้ได้กำไรที่เหมาะสม
การเสนอราคาให้กับผู้ว่าจ้าง คือการเจรจาต่อรองที่มีผลต่อผลกำไรของธุรกิจรับเหมาสร้างบ้าน ผู้รับเหมาสร้างบ้านควรดำเนินงานที่ได้ กำไรทั้งสิ้นข้างหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด ต้องไม่น้อยกว่า 10% (ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน) อย่ารับงานที่ได้กำไรน้อยเกินไป หรือเสียเปรียบสำหรับในการต่อรองกับลูกค้า จนทำให้ธุรกิจไม่เติบโต แล้วก็เสียเวลาไปโดยไม่คุ้ม
เมื่อเสนอราคาให้กับผู้ว่าจ้าง ก็จำต้องคำนวณ BOQ ให้ถูกขวานผ่าซาก ผู้ว่าจ้างส่วนมากอาจไม่เข้าใจองค์ประกอบทุนกับความเสี่ยงล้นหลามที่พวกเราจำต้องแบกรับ มั่นใจว่าผู้รับเหมามีผลกำไรมากมาย หัวหมอชอบซ่อนอะไรไว้ แต่เรารู้ๆกันอยู่นะครับ ว่าราคาที่เสนอไปเป็นการคุ้มครองการเสี่ยงที่บางทีอาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเสียหาย ค่าตอบแทนล่วงเวลา ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน อื่นๆอีกมากมาย
ลองชี้แจงให้เจ้าของงานเข้าใจ ชี้แจงให้เห็นภาพ ว่าควรที่จะทำการเลือกเราเนื่องจากมีความพร้อม ปฏิบัติงานคุณภาพดี รวมทั้งจบตรงเวลา ไม่ใช่ด้วยเหตุว่าราคาไม่แพงที่สุดแต่ไปเสี่ยงกับปัญหาในภายหลัง
3. ประชุมช่วง Pre-Construction
Pre-Construction ตอนเตรียมพร้อมก่อนเริ่มการก่อสร้าง ควรต้องสัมมนาร่วมกับผู้ที่มีการเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้จัดการแผนการ นักออกแบบ วิศวกรสนาม โฟร์แมน ข้างประเมินราคา ฝ่ายจัดซื้อ รวมถึงข้างบัญชี เพื่อให้เห็นทางเดียวกัน การวางเป้าหมายไม่ใช่หน้าที่ของ PM เพียงผู้เดียว ข้อมูลที่ได้รับมาจากทุกฝ่ายจะช่วยทำให้การวางแผนเกิดคุณภาพสูงสุด อุตสาหะคุยกันอย่างเปิดเผย รู้เรื่องกันอย่างถ่องแท้ งานจะจบได้ด้วยดี
4. ตั้งงบ ติดตาม และควบคุมเงินลงทุน
การวางแผนงบประมาณและก็จัดการต้นทุนสำหรับโครงการก่อสร้าง สามารถช่วยให้ผู้รับเหมาก่อสร้างย่นระยะเวลา ลดการเสี่ยงรวมทั้งเพิ่มผลกำไรได้ แต่ว่าหลายผู้รับเหมาสร้างบ้านมักไม่สนใจทำ ด้วยเหตุว่าหน้างานมีเรื่องมีราววุ่นวายจนกระทั่งไม่ว่างเก็บข้อมูลต้นทุนที่จ่ายออกไปแล้ว
ต้นทุนค่าใช้สอยในงานก่อสร้างมักไหลออกได้หลายทาง อีกทั้งการซื้อวัสดุ การจ่ายค่าแรง การจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างตอน การใช้เงินสดย่อย ฯลฯ หากว่าไม่มีการควบคุม ทุนก็จะหลุดออกนอกจุดหมายได้ง่าย ธุรกิจ
รับเหมาสร้างบ้านควรมีระบบเอกสารกับวิธีการที่แจ้งชัด สำหรับเก็บทุนและค่าครองชีพทั้งหมดทั้งปวงให้ครบถ้วนสมบูรณ์
5. มีเงินทุนหมุนเวียน อย่างต่ำ 30%
ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านจะต้องมีเงินทุนหมุนเวียน ไม่น้อยกว่า 30% ของราคาโครงงานก่อสร้างที่ได้รับ เพื่อดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงเงิน Advance หรือเงินงวดจากนายจ้าง เนื่องเพราะเงินส่วนนี้อาจติดปัญหาในการเบิกหรือจ่าย ทำให้งานล่าช้า เงินลงทุนเพิ่มขึ้นสวนกับกำไรที่ลดลง
การมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ จะช่วยให้ผู้รับเหมาก่อสร้างทำงานได้ตามแผน และก็มีคุณประโยชน์อีกอย่างคือ สามารถซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างเป็นเงินสดเพื่อรับการลดราคาเงินสดจากผู้ขาย (Cash Discount) 1.5-3% หรือคิดเป็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้น 1-2% อย่างยิ่งจริงๆ
เงินทุนหมุนเวียน สิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านมีความยั่งยืน ถ้าเงินทุนหมุนเวียนไม่ดีก็ปฏิบัติงานได้ตรากตรำ หรือถ้าหากเงินลงทุนแพงแต่ผลกำไรน้อยก็ไม่มีทางเติบโต กลับไปข้อที่ 1. ถ้าหากเลือกนายจ้างดี ชำระเงินตามกำหนด ก็จะหมดปัญหาเรื่องการหมุนเงิน แล้วไปสู่โหมดการสร้างผลกำไรได้นะครับ
6. มีความเกี่ยวพันที่ดีกับซัพพลายเออร์
ซัพพลายเออร์ เป็นหุ้นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านให้เติบโตขึ้นได้ เราสามารถมัธยัสถ์ทุนได้ด้วยความให้การช่วยเหลือจากซัพพลายเออร์ ที่ชำนิชำนาญการหาวัสดุที่เหมาะสม ด้วยเหตุว่าวัสดุแต่ละอย่างก็มีวิธีการการซื้อต่างๆนาๆ
เมื่อพบกับซัพพลายเออร์ที่ดี สามารถให้คำแนะนำและก็จัดส่งอุปกรณ์ให้ได้ตรงตรงเวลา ไม่ทำให้งานติดขัด ก็ควรจะรักษาความเกี่ยวข้องที่ดีเอาไว้ ให้เกรียติ ไม่เอาเทียบและ (มานะ) ชำระเงินให้ตรงเวลา แม้ทำงานร่วมกันอย่างเข้ากัน ทางซัพพลายเออร์ก็ต้องการจะช่วยพวกเราในฐานะลูกค้าที่ดี มีส่วนลด หรือต่อรองราคาได้ง่าย
7. ดูแลคนงาน แล้วก็ผู้รับเหมาก่อสร้างตอน
แรงงานเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดศรีษะไม่น้อย คนทำมาค้าขายรับเหมาสร้างบ้านไม่ควรไม่มีความสนใจเรื่องเบื้องต้นอย่าง การชำระเงินตามกำหนด และก็การดำรงชีวิตที่เหมาะสม ถ้าหากพวกเค้าได้รับประทานอิ่มนอนอุ่น ก็จะอยากทำงานกับเราต่อไปเรื่อยๆเองขอรับ คิดไว้เสมอ " ไม่มีพวกเขาก็ไม่มีเรา " อย่าลืมว่าประเทศไทยกำลังไปสู่สมัยขาดแคลนแรงงานที่ลดลงเป็นเท่าตัวในทุกปีด้วยนะครับ
การเสียแรงงานฝีมือดีไปทำงานกับที่อื่นๆ ก็คือปัญหานึง ที่เพราะว่าเขาบางทีอาจมิได้รับค่าจ้างที่เหมาะสม ไม่มีโอกาสให้เค้าเติบโตในอาชีพ หรือบางคนก็ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจรับเหมาด้วยตัวเอง ผู้รับเหมาควรที่จะเอาใจใส่ให้ดี
8. ลงทุนกับทรัพย์สิน
คือทรัพย์สินที่พวกเราซื้อมาเพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องจักร ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง แคมป์คนงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ ลงทุนซื้อ แล้วได้ประโยชน์มากกว่า การเช่า หรือ ไม่มีใช้
การมีเครื่องไม้เครื่องมือเป็นของตัวเอง จะสามารถช่วยทำให้ทำงานได้เร็ว เนื่องจากพร้อมให้ถือจับมาใช้ได้ตลอด พองานไวทุนก็ลดน้อยลง หรืออาจจะส่งผลให้คุณภาพงานสูงมากขึ้น พร้อมที่จะชิงชัยกับผู้รับเหมารายอื่น แต่ว่าอย่าลืมนึกถึงค่าครองชีพที่ตามมาด้วยนะครับ ตัวอย่างเช่น ค่าซ่อมบำรุง ค่าเสื่อมราคา หรือการเสี่ยงจากการสูญหาย ลองคำนวณมองว่า ซื้อหรือเช่า แบบไหนจะคุ้มกว่า
9. คุมเวลางานให้ได้ตามแผน
ผู้ว่าจ้างชอบถูกใจการก่อสร้างที่มีคุณภาพและเสร็จทันตามกำหนด หรือเร็วกว่าแผนได้ก็ยิ่งดี พองานเสร็จตามแผนพวกเราก็สามารถโยกคนงาน รวมทั้งเครื่องจักรไปทำไซต์งานอื่นต่อได้
การวางแผนการก่อสร้างจำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่ช่วง Pre-Construction และจำต้องติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด โดยที่วิศวกรหน้างานต้องไปส่องดูกรยละเอียด และตรวจประสิทธิภาพงานให้จบได้ในครั้งเดียวแบบที่ไม่ต้องเก็บงานย้อนหลังจะเหมาะสมที่สุด
10. บริการผู้ว่าจ้างให้ตลอดรอดฝั่ง
ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้านที่บรรลุความสำเร็จ จำต้องสามารถบริการลูกค้าได้อย่างมืออาชีพตลอดเวลาก่อสร้าง ด้วยการติดต่อสื่อสารอย่างเปิดเผย ทำตามสัญญา แล้วก็มอบงานได้ทันตามกำหนด เพื่อสร้างความเชื่อใจระหว่างกัน เท่านี้ก็มีโอกาสที่จะได้งานตลอด หรือได้รับงานจากการแนะนำของลูกค้าเดิมอีกด้วย
สรุป
สรุปแล้ว ธุรกิจรับเหมาสร้างบ้าน (Construction Business) นั้นคือธุรกิจที่ดำเนินกิจการรับเหมาสร้างบ้าน ด้วยการรับผิดถูกใจหน้าที่หาวัสดุอุปกรณ์ แรงงาน รวมทั้งเครื่องจักรที่ต้องต่อการก่อสร้าง เพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปตามแผนกับงบประมาณที่กำหนด
