Part of speech เป็นหนึ่งในเรื่องราวในโครงสร้างประโยคพื้นฐานที่เราค่อนข้างจะได้ยินผ่านๆหูกันมาบ้างแล้ว ทั้งตอนที่เราเรียนอยู่ประธม มัธยม และมหาลัย เพราะมันคือ สิ่งที่แทรกอยู่ในบทเรียนที่เราเคยเรียนกันมาอยู่เสมอ วันนี้ ponpon จะมาเสนอ หัวข้อที่ทุกคนเคยสงสัยกันมานาน
ถ้าจะพูดถึง part of speech ทุกคนหรือเฉพาะบางคนที่ไม่เคยรู้อาจจะสงสัยกัน มันก็คือ “ชนิดของคำ” นั่นแหละครับ
ซึ่งชนิดของคำพวกนี้จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกเราได้ว่า คำแต่ละประเภทเอาไปใช้ในโอกาสไหน ในตำแหน่งอะไรได้บ้างนั่นเอง
ชนิดของคำนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 8 ประเภทดังนั้ครับ
คำนาม (Nouns)คำนามคือ คำที่ใช้เรียก คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ หรือ แนวคิดต่างๆครับ ยกตัวอย่างง่ายๆเลย
1.1 คน – perter, Smith ,student, manager, boy, worker
1.2 สัตว์ – bird, dog, cat, fish, giraffe
1.3 สิ่งของ – car, tree, flower, chair, table
1.4 แนวคิด – love, freedom, loneliness, strength
ซึ่งคำนามในภาษาอังกฤษนั้นแตกต่างจากคำนามในภาษาไทยอยู่ตรงจุดที่ด้วยว่า หากคำนามนั้นเป็นคำนามทั่วไป ( common Nouns ) และเป็นนามนับได้ ( countable nouns ) เมื่อมีจำนวนมากกว่า 1 เราจะต้องเปลี่ยนรูปเป็นพหูพจน์ ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว เราจะเติม -หs หรือ -es หลังคำนามนั้น ๆ เช่น boy เปลี่ยนเป็น boys หรือ city เปลี่ยนเป็น cities ในกรณีที่ทั้งสองเป็นคำนามพหูพจน์ แต่ก็อาจจะมีบางคำที่เปลี่ยนรูปไปเลย เช่น man เปลี่ยนเป็น men หรีอ child เปลี่ยนเป็น children ส่วนคำนามนับไม่ได้ ( Uncountable Nouns ) จะไม่มีรูป พหูพจน์ และมักจะใช้คู่กับคำกริยาที่เป็นเอกพจน์ซะมากกว่า
คำนามในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็น 6ประเภทด้วยกันครับ
1) คำนามทั่วไป ( Common Nouns )
เป็นคำนามที่เราใช้เรียก คน สัตว์ สิ่งของ หรือ สถานที่ทั่วๆไป โดยไม่เจาะจงลงไปว่าเป็นคนใดคนหนึ่ง ตัวใดตัวหนึ่ง สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือที่ใดที่หนึ่ง มักจะเริ่มต้นคำด้วยอักษรตัวเล็ก เช่น
girl ( เด็กผู้หญิง ) , ( cat แมว ) , car ( รถยนต์ ) , country ( ประเทศ )
2) คำนามชี้เฉพาะ ( Proper Nouns )
เป็นคำนามที่เราใช้เรียก คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ โดยเจาะจงลงไปว่า เป็นบุคคลใด สถานที่ใด มักเป็นชื่อของคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ เช่น
Susuki ( รถยี่ห้อซูซูกิ ) Mary ( หนูน้อยหรือผู้หญิงที่ชื่อ เมรี่ ) thailand ( ประเทศไทย )
3)คำนามรูปธรรม ( Concrete Nouns )
เป็นคำนามที่กล่าวถึงสิ่งที่เราสามารถมองเห็น ได้ยินเสียง ได้กลิ่น สัมผัสรูปลักษณ์ได้ หรือชิมรสชาติได้ เช่น
moonlight ( แสงจันทร์ ) ,melody ( ทำนองเพลง ), aroma ( กลิ่นหอม ), steak ( เนื้อเสต็ก ) ,noise ( เสียงรบกวน)
4) คำนาม นามธรรม (abstract Nouns)
เป็นคำนามที่กล่าวถึงสิ่งที่เป็นความเชื่อ เป็นแนวความคิด เป็นคุณลักษณะ หรือคุณสมบัติต่างๆ คำนามนามธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีรูปร่างให้เราสามารถแตะต้องได้ เราไม่สามารถมองเห็นได้ เช่น
Peace ( สันติภาพ ) ,beauty ( ความงาม ) ,democracy (ประชาธิปไตย )
5)คำนามเรียกกลุ่มหรือสมุหนาม ( Collective Nouns )
คำนามประเภทนี้จะเป็นคำนามที่ใช้เรียกกลุ่มคน สัตว์ หรือสิ่งของให้เป็น หมวด หมู่ คณะ หรือ เหล่าเดียวกัน เช่น
Class (รุ่น/ชั้น), School (ฝูงสัตว์ทะเล / ฝูงปลา),little (ครอก),heard (ฝูงสัตว์)
ตัวอย่าง
a little of puppies (ลูกสุนัขหนึ่งครอก)
a school of fish (ปลาฝูงหนึ่ง ไม่ใช่โรงเรียนของปลานะครับ ว่าไปนั่น)
6) คำนามประสม (Compound Nouns)
คำนามประเภทนี้เกิดจากการนำคำ 2 คำขึ้นไปมาใช้เป็นคำนามคำเดียว สามารถเขียนเป็นคำเดียวกันก็ได้ แยกคำก็ได้ หรือเขียนโดยใช้เครื่องหมายยัติภังค์ (-) มากั้นกลางก็ได้ เช่น
bashetball (กีฬาบาสเกตบอล),footpath (ทางเท้า),school bus (รถโรงเรียน),Credit card (บัตรเครดิต),Self-confidence (ความมั่นใจในตนเอง)
โอเคครับพอเรารู้จักประเภทของคำนามกันแล้วต่อไปเราจะไปรู้จัก หน้าที่ของคำนามกันครับ ชักน่าสนใจขึ้นมาซะแล้ว!!!
หน้าที่ของคำนาม
หน้าที่ของคำนามมีหน้าที่หลักๆอยู่ 5 หน้าที่นั่นเองครับ ซึ่งเริ่มจาก
1.ประธาน ( Subject ) “S”
The company trucks run on diesel. รถบรรทุกของบริษัทวิ่งด้วยน้ำมันดีเซล
Harry has been promote to a new position. แฮรี่ได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นตำแหน่งใหม่
2.กรรมตรง (Direct object) “DO”
we have to give a presentation on how to save energy in our office tomorrow .
เราต้องนำเสนอวิธีการประหยัดพลังงานในออฟฟิศของพวกเราพรุ่งนี้
The store will hold a special sale event next weekend.
ทางร้านจะจัดงานลดราคาพิเศษสุดสัปดาห์หน้า
3.กรรมรอง (indirect object) “IO”
The bank loaned John a sufficient amount of money to run his business.
ธนาคารให้จอห์นกู้เงินเพื่อการทำธุระกิจของเขา
The saleperson offered her client a special discount on a new car.
พนักงานขายเสนอการลดราคาพิเศษสำหรับรถใหม่ให้กับลูกค้าของเธอ
4.กรรมของบุพบท ( Object of preposition )
His boss is pleased with his performance .
เจ้านายของเขาพอใจกับผลงานของเขา
The worker of that factory were laid off.
คนงานของโรงงานนั้นถูกปลดออกจากงาน
5.นามที่ตามหลัง Linking Verb (Predicate Nominative)
David will become our new supervisor.
เดวิดจะกลายมาเป็นหัวหน้าคนใหม่ของพวกเรา
The gentlemen standing next to our president is Mr.Kim.
สุภาพบุรุษที่ยืนอยู่ถัดจากท่านประธานของพวกเราคือคุณ คิมPart of speech Part 1 คำนาม
ทางเข้า ufabet